อัลตราซาวด์ 2 มิติ และ 4 มิติ
เพราะการมองเห็นของลูกน้อย คือภาพที่น่าจดจำของคนเป็นแม่ การอัลตราซาวด์เป็นขั้นตอนสำคัญของการดูแลครรภ์ ช่วยให้คุณแม่และแพทย์สามารถติดตามพัฒนาการของลูกได้อย่างใกล้ชิด
✨ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทำอัลตราซาวด์ 4 มิติ คือช่วงอายุครรภ์ 24–32 สัปดาห์ เพื่อให้เห็นรายละเอียดใบหน้าและการเคลื่อนไหวของลูกได้ชัดเจนที่สุด
🩺 อัลตราซาวด์ 2 มิติ
ใช้ตรวจพัฒนาการทั่วไปของทารก เช่น ดูหัวใจ การเคลื่อนไหว ตำแหน่งรก และโครงสร้างร่างกาย เพื่อประเมินความสมบูรณ์ และตรวจหาความผิดปกติแต่เนิ่นๆ
👶🏻 อัลตราซาวด์ 4 มิติ
มองเห็นลูกในครรภ์ได้อย่างรู้สึกทันที ก่อนวันคลอด เห็นการขยับ การยิ้ม การหาวของลูกเสมือนจริง ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มเล็กๆ การดูดนิ้ว หรือการชันเข่า ช่วยสร้างความผูกพันระหว่างแม่และลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์
อัลตราซาวด์ MFM (Maternal-Fetal Medicine)
การดูแลครรภ์ที่ลึกกว่า เพื่อความปลอดภัยทั้งแม่และลูก
ในบางครรภ์ การอัลตราซาวด์ทั่วไปอาจไม่เพียงพอสำหรับการวินิจฉัยหรือประเมินความเสี่ยง แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ (MFM) จึงมีบทบาทสำคัญในการดูแลครรภ์ที่ต้องการความแม่นยำและละเอียดเป็นพิเศษ
🩺 อัลตราซาวด์ MFM ต่างจากทั่วไปอย่างไร?
• ตรวจโครงสร้างทารกอย่างละเอียด (Detailed anomaly scan)
• ประเมินความเสี่ยงของดาวน์ซินโดรม (Nuchal translucency – NT)
• ตรวจสุขภาพรก น้ำคร่ำ และสายสะดือ
• เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน เช่น ทารกตัวเล็กกว่ากำหนด, ความผิดปกติของหัวใจ หรืออวัยวะภายใน
• ใช้เทคโนโลยี Doppler วิเคราะห์การไหลเวียนเลือดของทารกและแม่
👩🏻⚕️ ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง MFM การอ่านผลและวางแผนดูแลครรภ์จะทำโดยแพทย์ MFM โดยตรง ให้ความมั่นใจทั้งในครรภ์ปกติ และครรภ์ที่มีภาวะเสี่ยงสูง
🗓️ แนะนำช่วงเวลาในการตรวจ
• 11–14 สัปดาห์ : ตรวจ NT และความเสี่ยงโครโมโซมผิดปกติ
• 18–22 สัปดาห์ : ตรวจโครงสร้างทารกละเอียด (Anomaly scan)
• 28–32 สัปดาห์ : ตรวจการเจริญเติบโตและสุขภาพของทารก